KHR! 8018 [Y] วันๆของวองโกเล่เมื่อฤดูฝนมาเยือน - KHR! 8018 [Y] วันๆของวองโกเล่เมื่อฤดูฝนมาเยือน นิยาย KHR! 8018 [Y] วันๆของวองโกเล่เมื่อฤดูฝนมาเยือน : Dek-D.com - Writer

    KHR! 8018 [Y] วันๆของวองโกเล่เมื่อฤดูฝนมาเยือน

    เมฆดำ ฟ้าหม่น พายุโหม สายฟ้าฟาด ไอหมอกคลุม แสงอรุณริบหรี่ เมื่อมีสิ่งเหล่านี้ก็ต้องมี...หยาดฝนที่โปรยปราย

    ผู้เข้าชมรวม

    399

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    399

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    10
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 พ.ค. 57 / 17:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สวัสดีค่ะ ^_^

    นี่เป็นฟิครีบอร์นเรื่องแรกอาจจะแต่งไม่ดีเท่าใครหลายๆคน(หรือถึงขั้นกากเลยก็ว่าได้ - -")
    แต่ว่าถ้าหากติดใจหรือเจ็บใจยังไงก็ขอให้เม้นต์ติชมกันด้วยนะจ๊ะ เพื่อเป็นการให้
    กำลังใจ
    ไรท์เตอร์ตาดำๆผู้นี้//กระซิกๆ T^Tเพราะว่าไรท์เตอร์เจ็บใจมาหลายฟิคแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร ไรท์เตอร์ที่อึด ถึก โฮกผู้นี้ก็จะขอสู้ต่อไปเพื่อความมันมือในการแต่งฟิค 
    (เค้าเรียกว่าเพ้ออยู่คนเดียวว้อย : รีดเดอร์) ฮ่าๆๆๆๆ งั้น! ถ้ารีดเดอร์คนไหนอยากอ่านแล้วก็เชิญได้เลยจ้าาาา! ^^




     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เปาะ แปะ เปาะ แปะ...

      "ฝนนี่นา?" ชายหนุ่มผมสีดำในชุดสูทสีดำละมือจากงานที่อยู่ตรงหน้าแล้วหันออกไปมองนอกหน้าต่าง 
      "ฝนอีกแล้ว น่าเบื่อจัง" ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่มีผมสีเงินฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วสบถเบาๆ
      วันนี้เป็นวันเคลียร์เควสงานที่บอสมาเฟียของวองโกเล่มอบหมายให้ทำ เพราะมัวูหลงระเริงไปว่างานแค่นี้ทำอาทิตย์เดียวก็เสร็จ สองหนุ่มไม้เบื่อไม้เมาจึงออกจากฐานไปลั้ลลากันที่คาสิโนในเวกัสเพื่อพักร้อน แต่พอกลับมาก็ต้องอ้าปากค้าง วิญญาณหลุดจากร่างเมื่อเห็นงานที่กองสุมๆเป็นขยะในอาเซอร์ไบจาน
                         ที่จริงแล้ววันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์เพราะผู้พิทักษ์คนอื่นๆทำงานกันเสร็จหมดแล้วถึงได้แฮปปี้กันหมด แต่ไม่ใช่กับสองเกลอที่ต้องมานั่งทำงานมือไม้เป็นระวิงเพื่อให้งานเสร็จทันก่อนวันหยุดยาวที่จะมาถึงจริงๆ
      "เฮ้ย ยามาโมโตะ เหลืออีกกี่วันที่จะถึงเดดไลน์ฮะ" โกคุเทระเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างหมดสภาพ 
      "ฮะๆๆ จะให้พูดจริงอ่ะเหรอ" ยามาโมโตะหัวเราะลองเชิง 
      "หุบปาก แล้วตอบมาซะ"
      "พรุ่งนี้แหละเดดไลน์ ^^"
      "OoO!! ไอ้เจ้าบ้าเบสบอลทำไมแกไม่บอกก่อนตั้งแต่แรกฟะ!! เอางานภูเขานั่นมาปั่นให้เสร็จเลยเฟ้ย!" โกคุเทระสตั้นก่อนจะแหกปากโวยลั่นแล้วไปคว้าแฟ้มที่ตั้งเป็นขนมชั้นมาดู
      "อย่ามาล้อเล่นนะ ฉันไม่ยอมหรอก! ไอ้คนอื่นมันไปลั้ลลากันส่วนเราก็ต้องมานั่งละเลียดงานอยู่แบบนี้ มันไม่แฟร์ >O<!"
      ร่างสูงผมดำมองเพื่อนของตัวเองที่สติสตังหลุดลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างขำๆก่อนจะกระแอมเล็กน้อย "อะแฮ่มๆ โกคุเทระคุง ที่จริงแล้วงานพวกนั้นเราทำกันเสร็จไปเมื่อกี้เอง" 

      "(- -')"

      "^_^"

      "(=_=)"

      "^_^"

      "ยิ้มอะไรของแก๊!!!"

      ปัง!!! โครม!! ตูม!! ปัก!! อั่ก!! เคร้ง!!!

      อีกด้านหนึ่ง

      "เสียงดังกันจังเลยนะ พวกนั้นน่ะ" แรมโบ้หนุ่มเงยหน้าจากจอคอมมาพูดเบาๆก่อนละเลงงานต่อ "ที่จริงงานของผมเสร็จนานแล้ว ทำไมต้องมาทำอีกด้วยเนี่ย" เสียงเนือยพูดอย่างเซ็งจิต
      "ฮะๆ ขอโทษนะแรมโบ้ที่ต้องรบกวนนายน่ะ งานนี้เป็นตารางวันพักผ่อนของแฟมิลี่เรา ที่จริงคุณฮิบาริต้องเป็นคนทำ แต่เจ้าตัวบอกว่า 'งานของฉันเสร็จแล้วถ้ามาสะเออะอีกจะขย้ำให้ตาย' เนอะ ก็ประมาณนี้แหละ" สึนะวัยยี่สิบห้าพูดพลางหัวเราะแห้งๆไปด้วย ที่จริงก็ไม่ได้อยากจะให้เป็นภาระนายเลยแต่ว่าไม่มีใครอาสามาทำเลยนี่สิ U_U
      "ไม่เป็นไรหรอกครับ วองโกเล่ขอมาทั้งทีผมก็ต้องทำ //ก็เป็นคำสั่งของเจ้านายนี่" 
      "อื้ม ขอบใจมากนะ แรมโบ้ ฉันไปล่ะ" สึนะเอามือออกจากพนักเก้าอี้ของแรมโบ้แล้วเดินไปเปิดประตู แต่เจ้าตัวนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เลยเหลียวหลังมาพูดทิ้งท้ายไว้ "เอ้อแรมโบ้ อย่าหักโหมเกินไปล่ะ เดี๋ยวไม่สบายเอา"
      "คร้าบบบ" แรมโบ้ขานตอบเหมือนปกติที่สึนะต้องพูดแบบนี้ แต่ในใจก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อย

      ฟึ่บ!!!!!!

      "เฮ้ยยย!!!???" <<< คนทั้งฐานวองโกเล่

      "อะไรน่ะ ไม่จริงใช่ม๊ายยยย =[]=!!" <<แรมโบ้ ที่กำลังช็อกอยู่หน้าคอม
      "โอ๊ยย ร้อนๆๆๆ" <<คุซาคาเบะ ที่ทำชาเขียวหกราดตัวเอง
      "= =+" <<ฮิบาริ ที่โดนลูกหลงของคุซาคาเบะ
      "ซื้ดดดด!! เลือด!!" <<อี้ผิง ที่กำลังถักไหมเข้าด้ายเข้าเข็ม [เข้าจริงๆนั่นแหละ =_= : ไรท์]
      "O_O" <<ยามะ&โกคุ ที่กำลังเงิบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
      "..." <<สึนะ ที่กำลังเดินอย่างโดดเดี่ยวอยู่ที่ทางเดิน
      "คุฟุฟุฟุฟุ" <<มุคุโร่ ที่เอาแต่หัวเราะบ้าอยู่

      "ไฟดับบบบบบบบบ!!!!!!!!!!!!!!" 

      ********************************************************************************************

      ณ ห้องทำงานของวายุและพิรุณ

      "โกคุเทระ นายไปสับสวิตซ์ทีดิ๊" ยามาโมโตะหันไปบอกเพื่อนในความมืด
      "หา!! แกนั่นแหละไปสับ อย่ามาสั่งฉันนะ!" โกคุเทระตะคอกอีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน
      "เฮ้อออ ช่วยไม่ได้แฮะ ผ่านมาตั้งยี่สิบนาทีแล้วไฟยังไม่มาเลย ไฟสำรองอยู่ไหน" ร่างสูงถอนหายใจออกมา
      "จางนีนินั่นแหละ อยู่ไหน" หัวปลาหมึกเสริมบ้าง ทำให้พิรุณหันมามองวายุงงๆ "นายไม่รู้เหรอ จางนีนิย้ายเวรไปอยู่ที่ฐานอเมริกาตั้งนานแล้ว ส่วนสปาน่าก็ขอไปดูงานที่ฐานญี่ปุ่นกับอิริเอะ"
      "โธ่ถัง! ให้มันได้อย่างงี้สิ =_=" 
      "ฮะๆ เอาน่า อย่างน้อยก็ต้องมีคนอยู่ใกล้ๆห้องควบคุมไฟฟ้าแล้วก็สับสวิตซ์เองนั่นแหละ ^^" ยามาโมโตะพูดอย่างใจเย็น
      "แต่นี่ก็ผ่านมาหลายนาทีแล้วนะเฟ้ย ประเด็นก็คือ ไม่มีใครอยู่ใกล้ห้องควบคุมไฟฟ้าหรอกเพราะห้องนั้นมันอยู่ส่วนฐานของฮิบาริ!!" วายุเอามือกุมหัวอย่างปวดเฮด
      "แล้วก็ไฟสำรองอาจจะโดนน้ำฝนหยดใส่แล้วก็ช็อตไปแล้วก็ได้"
      "ฐานเรามีเพดานรั่วด้วยเหรอ?" ยามาโมโตะถามอย่างแปลกใจ
      "ฉันก็เดาสุ่มไปแหละเฟ้ย ช่างเหอะ ตอนนี้ถ้าฮิบาริมันไม่สับสวิตซ์ก็ไม่มีใครหน้าไหนไปสับแล้ว" โกคุเทระบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง 
      ยามาโมโตะทำหน้าไม่เก็ทอย่างมากซึ่งหัวปลาหมึกไม่มีทางเห็น "เอ๋? ทำไมล่ะ?"
      "โอ๊ยยย ก็เพราะไฟมันดับ ทั้งฐาน-มัน-ก็-เลย-มอง-ไม่-เห็น-แถม-ทาง-มัน-ก็-ยิ่ง-กว่า-รัง-ปลวก-ไง-เล่า!!!" วายุหัวเงินจงใจพูดให้ชัดๆเพราะเบื่อคุยกับคนสมองขี้เลื่อย
      "อ๋อออ" ยามาโมโตะทำหน้าเข้าใจ "แต่ว่าเราใช้ไฟฉายก็ได้นี่ ใช่มะ (' ' )"
      "-O-" เออ...ก็จริงของมันแฮะ แต่เดี๋ยวสิ มืดอย่างนี้จะไปรู้มั้ยว่าไฟฉายมันอยู่ไหน
      "เอางี้ ฉันกับนายจะแยกคนละทางไปหาไฟฉาย เข้าใจมั้ย"
      "เอ่อ อืม เข้าใจ...มั้ง?" พิรุณหัวดำทำเสียงอ่อย
      เยี่ยมมม ดูท่าภารกิจนี้ไม่รอดแหง -_-
      "จะยังไงก็เหอะ ไปได้แล้ว ไปล่ะ" พูดจบโกคุเทระก็วิ่งออกไปทางประตูอย่างว่องแต่ก็มิวายชนเก้าอี้ล้มไปตัวหนึ่ง โธ่ มืดอย่างนี้ก็ระวังบ้างสิครับ
      คุณ ^^
      "เฮ้อออ" ยามาโมโตะถอนหายใจออกมา "ดีล่ะ ถึงตาเราบ้าง"

      อีกด้านหนึ่ง

      "ให้ตายสิ พับผ่า" สึนะสบถออกมาระหว่างกำลังมุ่งสู่ห้องทำงานอันแสนรัก ก็รู้อยู่หรอกว่าหน้าฝนต้องมีไฟดับบ้างไรบ้าง แต่ไม่คิดว่าต้องมาในตอนที่เขากำลังอยู่โลนลี่แบบนี้ มันเสียวสันหลังรู้บ้างมั้ยยย TOT 
      "เฮ้ออ รู้งี้อยู่เป็นเพื่อนแรมโบ้ก่อนก็ดี" นภากล่าวอย่างสมเพชตัวเองขณะเดินคลำทางไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าอะไรจะโผล่มาบ้าง มืดอย่างนี้เหมือนในช่วงล่า ท้า ผีเลยอ่ะ ไม่ต่างอะไรกับบรรยากาศในเกม outlast หรือหนังผีที่ฉายฉากปราสาทร้างเก่าแก่ ความรู้สึกวังเวงนี่มันยังไงกัน ใครก็ได้ช่วยทูน่าที๊!! T^T
      "วองโกเล่ วองโกเล่ ฮือออๆ ฮือๆ"
      เย้ยยย!! นั่นใครอีกล่ะนั่น อย่าทำให้ตกใจเซ่! //คนยิ่งกลัวๆอยู่
      "ฮึกๆ ฮือ ฮือออ วองโกเล่ วองโกเล่" เสียงเรียกนั่นยานคางและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเรียก สึนะที่ตอนนี้ผมตั้งยิ่งกว่าโงกุนผสมเบจิต้าได้สติหลุดลอยไปแล้ว ร่างกายไปไวกว่าความคิด ตอนนี้บอสมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ได้หนีผีไปอย่างรวดเร็วพอๆกับการขับรถใน Fast6

      ทางด้านแรมโบ้

      "แงง ฮืออ ฮึกๆ ฮือๆ วองโกเล่ ฮือ แงๆๆ" แรมโบ้ฟูมฟายตลอดทางที่เรียกชื่อบอสหรือพี่ชายของตัวเอง เพราะหวังว่าจะให้คนที่วิ่งหนีเขาไปเมื่อกี้ช่วยปลอบซะหน่อย 
      "ฮือ วองโเล่ งานหายไปหมดเลยอ่ะ ตารางพักผ่อนของแฟมิลี่ หายไปหมดเลยย แงๆๆ ฮือ TOT" ใช่แล้ว เสียงที่สึนะได้ยินคือเสียงเรียกปนเสียงร้องไห้ของแรมโบ้นั่นเอง
      "ไม่มีใครอยู่เลย ฉันชักกลัวแล้วนะ..." เสียงร้องเงียบไปสักแปปนึงเพราะสายตาเจ้ากรรมดันไปเห็นบางอย่างอยู่บนผนังทางเดิน นะ นั่นมัน แรมโบ้ยื่นมือไปแตะที่จุดนั้นก่อนจะทำสีหน้าเหยเก "ละ เลือดนี่นา..."
      ว๊ากกกกกกกกก!!! แล้วก็อีกคนที่ตามสึนะไปติดๆ


      ทางด้านของอี้ผิง

      "หวายยยยยย ดันทำเข็มจิ้มนิ้วตัวเองซะได้ T^T" สาวน้อยกังฟูรำพึงขณะควานหาผ้ามาซับเลือดแต่ก็ไม่เจอซักที "ช่วยไม่ได้นะ คงต้องไปห้องน้ำซะแล้ว" พูดจบก็เดินออกจากห้องแล้วคลำผนังทางเดินไปเรื่อยๆ "ฉันล่ะเบื่อฝนซะจริง ตกทีไรไฟดับทุกที -3-" เดินไปก็บ่นไปเหมือนคนแก่ไม่มีผิด - -" "ตายแล้ว! ดันทำเลือดเปรอะผนังซะได้ แย่จังเรา"
      [แรมโบ้ แกเชื้อไม่ทิ้งแถวเหมือนพี่แกจริงๆ - - : ไรท์]

      ทางด้านฮิบาริ

      "คะ คุณเคียวครับ ไฟดับแบบนี้ ต้องไปสับสวิตซ์นะครับ T^T" คุซาคาเบะที่เมื่อกี้เพิ่งโดนขย้ำเสร็จ
      ไปหมาดๆกล่าวต่อเจ้านายที่ดุยิ่งกว่ามังกรในฮอบบิทอย่างกล้าๆกลัวๆ
      "ขี้เกียจ - -+"
      "=[]= คะ คือ ถ้าคุณเคียวไม่ไปแล้วไฟจะมาได้ยังไงกันครับ"
      "นายก็ไปสับซะสิ เท็ตสึ" หัวหน้ากรรมการคุมกฎในชุดยูกาตะกล่าวอย่างไม่ยี่หระ
      "โธ่ ผมเพิ่งจะมาประจำอยู่ที่นี่ ไม่รู้ทางหรอกครับ นะครับ คุณเคียว *0*" รองหัวหน้ากรรมการคุมกฎออดอ้อนสุดชีวิต เอาวะ เป็นไงเป็นกัน !!
      "น่ารำคาญจัง ออกไป ก่อนที่จะโดนขย้ำ = =!!!" ไม่พูดเปล่า ทอนฟาที่มาจากไหนก็ไม่รู้แหวกความมืดมาฟาดใส่หน้าคุซาคาเบะอย่างจัง โอ๊ยย จะแม่นก็ให้มันมีลิมิตหน่อยสิครับ
                            หลังจากนั้น คุซาคาเบะ เท็ตซึยะก็จำใจเดินคอตกเลื่อนประตูออกไป แต่ก็มาป๊ะเข้ากับใครก็ไม่รู้ //มันมืดเลยไม่เห็นหน้า 
      "ว้า เดินมาเรื่อยๆ ไม่รู้มาโผล่ที่ไหนซะแล้วสิเรา ^^" ยามาโมโตะที่ตอนนี้เอามือเกาหัวอย่างเอ๋อๆพูดกับตัวเองคนเดียวโดยไม่รู้ว่ากำลังพูดคร่อมหัวใครบางคน
      "- -+" ยามาโมโตะ ทาเคชิ ทำไมมาอยู่ที่นี่!?
      "ฮะๆ นี่มีใครอยู่ป่าว...ฉันจะ อะ เหวอ!!" 
      พิรุณผู้โชคร้ายดันก้าวเท้าพลาดสะดุดเบาะรองนั่งก่อนจะคว้างในอากาศแล้วล้มทับใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างล่างเข้าอย่างจัง 
      "อ๊ะ นี่ ขอโทษนะ เจ็บตรงไหนรึเปล่า" ยามาโมโตะทำหน้าเลิ่กลั่กก่อนจะจับไหล่ฮิบาริให้นั่งตัวตรงแล้วแตะทั่วตัวเพื่อเช็กอาการบาดเจ็บ 
      "ยามาโมโตะ ทาเคชิ..." ฮิบาริกัดฟันกรอดเพื่อข่มอารมณ์ไว้ คนตรงหน้าก็ไม่ได้รู้เรื่อง
      อะไรเล้ยยย 
      พลั่ก!!!!!
      "อั่ก!!" ยามาโมโตะเอามือกุมจมูกที่มีเลือดอาบ สมองของพิรุณผมดำประมวลผลอยู่พักหนึ่งก่อนจะได้คำตอบว่าเขาอยู่ที่ไหน
      "ฮิบาริ ฮิบาริเหรอ..." ยามาโมโตะถามก่อนจะสอดส่องสายตาหาคนที่ว่าแต่ก็พบแค่ความมืดมิด
      "เจ้าสัตว์กินพืชชั้นต่ำ ออกไปเดี๋ยวนี้!!" สิ้นเสียงสวรรค์ก็มีทอนฟาลอยมาหมายจะฟาดซ้ำแต่พ่อพิรุณคนเก่งก็หลบได้ทุกครั้ง "เหวอ อย่าวู่วามสิฮิบาริ เฮ้ยเกือบ เราควรไปสับสวิตซ์ไฟด้วยกันนะ อยู่อย่างนี้เดี๋ยวก็ได้เป็นอาหารให้กิงกอร่าหรอก!!" 
      กึก!
      เฮ้ย ได้ผลด้วย ฮิบาริหยุดแล้ว
      "กิงกอร่า?" ฮิบาริทวนชื่อซ้ำ
      "อ่า ใช่ๆ กิงกอร่าคือสัตว์ประหลาดในตำนาน ชอบอยู่ในที่มืดๆแล้วจับคนกิน สามารถแปลงร่างเป็นคนที่ตัวเองกินได้ด้วยนะ ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างได้ตายกันหมดแน่" 
      "...กิงกอร่า เจ้านั่นทำผิดกฎของฉันต้องไปขย้ำ!!" พูดจบฮิบาริก็วิ่งออกนอกประตูแต่ก็โดนพ่อจอมเนียนจับข้อมือไว้ก่อน "เดี๋ยว! ถ้าเราไปเปิดไฟได้ กิงกอร่าก็จะไม่มานะ มันไม่ได้ทำผิดกฎซะหน่อย เราไปห้องควบคุมไฟฟ้ากันเถอะ ^^"
      คิกๆๆ ไม่คิดว่าคนอย่างฮิบาริจะหลอกง่ายอย่างนี้ ^_^
      "ยิ้มอะไรมิทราบ" ฮิบาริเอาทอนฟายื่นมาประชิดแก้มของยามาโมโตะ
      "เปล่าฮ๊าฟฟฟ TOT"

      15 นาทีต่อมา

      "จะเดินตามฉันไปถึงเมื่อไหร่ - -"
      "มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันสิ ^^"
      "แกน่ะกลับไปซะ"
      "ง่ะ ใจร้ายย T^T"
      ด้วยเหตุนี้ทั้งยามาโมโตะกับฮิบาริจึงเดินฝ่าความมืดกันไปเงียบๆเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน บางครั้งก็มีการเดินสะดุดขากันบ้างสลับกันไป บางทียามาโมโตะก็เตะเข้าที่ขาของฮิบาริ เจ้าตัวก็แค่เอาทอนฟากระทุ้งที่ท้องเบาๆ(เหรอ?) บางทีฮิบาริหยุดเดินกะทันหันทำให้หัวของพี่แกชนเข้ากับคางของยามาโมโตะเข้าอย่างจัง คนที่เจ็บตัวก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากหนุ่มเบสบอลผู้นี้ เฮ้ออ หัวแข็งอย่างกับอะไรดี - -"
      ร้ายแรงกว่าก็ต้องล่าสุดนี่เลย
      "วะ เหวอออออ!!" 

      โครม! ตุ้บ!

      "ยามาโมโตะ ฉันจะเตือนแกเป็นรอบที่พันนะ อย่า-มา-เหยียบ-ส้น-รอง-เท้า-ฉัน-อีก!"
      สภาพของทั้งคู่ตอนนี้คือแบบ...
      "ลุกออกไปเลย ก่อนที่ฉันจะเขมือบสมองโง่ๆของแก" 
      "เอ่อ  ขอโทษนะฮิบาริ ฉันลุกไม่ขึ้นอ่ะ ถ้านายไม่ลุกให้ฉันก่อน"
      ฮิบาริที่ตอนนี้คร่อมยามาโมโตะอยู่กัดฟันอย่างเจ็บใจ ก่อนจะหันไปมองส้นเท้าของตัวเองที่อยู่ในความมืด โธ่เว้ย!
      ฟึ่บ! พลั่ก! 
      ไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีขึ้นเลย -V-
      "ฮิบาริ นายหยุดดิ้นซะทีได้มะ? ไม่งั้นวัฏจักรกงล้อก็ไม่รู้จักจบสิ้นซะที" ยามาโมโตะดุฮิบาริที่เอาแต่ดิ้นจนตอนนี้ต้องเป็นฝ่ายถูกคร่อมซะเอง
      "หนวกหู อย่ามาสอนฉัน เจ้าสัตว์กินพืช"
      "นายเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย ทำไมไม่ลุกออกไปซะที หรือว่าบาดเจ็บฮะ?" 
      "..."
      "นายบาดเจ็บเหรอ"
      "..."
      "นี่ ฮิบาริ..."
      "เออ"
      ยามาโมโตะพยายามอ่านสีหน้าของอีกฝ่ายในความมืดว่าจะเป็นยังไงก่อนจะลุกออกจากตัวของฮิบาริแล้วถามว่า "นายบาดเจ็บตรงไหนเหรอ?"
      "..."
      "ไม่อยากตอบก็ไม่ป็นไร นายเดินไม่ได้งั้นสิ?"
      "..."
      "เงียบจะถือว่าเป็นคำตอบแล้วกันนะ"
      ฟึ่บ!!
      "แกจะทำอะไรน่ะ!!" ฮิบาริถามอย่างตกใจที่จู่ๆร่างสูงก็อุ้มเขาขึ้นมาในท่าเจ้าสาว
      "ก็อุ้มไง" ตอบหน้าตายอย่างน่าหมั่นไส้ 
      "ไม่ ปล่อยฉันลงนะ" หัวหน้ากรรมการคุมกฎสั่งเสียงแข็งทั้งๆที่ในใจตอนนี้อ่อนยวบยาบ
      "ไม่ปล่อย ฮี่ๆๆ ^O^"
      "-///-"

      Yamamoto talk:

      ฮะๆๆ ได้อุ้มฮิบาริจอมดื้อนี่เหมือนฝันเลยแฮะ จากเสือป่ากลายเป็นลูกแมวน้อยแสนเชื่องได้ในพริบตา น่ารักจัง ^///^
                     จะว่าไปแล้วทั้งเนื้อตัวแล้วก็ผิวพรรณของหมอนี่เหมือนผู้หญิงเลยแฮะ ผิวนี้นุ่มนิ่มอย่างกับขนมพุดดิ้ง แอร๊ยยย แค่คิดก็หิวแล้วอ่ะ -TTT-
      อืม ไม่รู้หลับไปยัง เห็นเงียบมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว
      "นี่ ฮิบาริ"
      "อะ อะไร"
      "หลับอยู่เหรอ"
      "ถ้าหลับจะคุยกับแกได้งั้นเหรอ - -"
      "ฮะๆๆๆ ฮิบารินี่ตลกเนอะ"
      "= =+"
                      ผมเดินมาเรื่อยๆก็เจอกับประตูเข้าห้องควบคุมไฟฟ้าแล้ว "เอาล่ะ ฉันจะไปสับสวิตซ์ นายนั่งรอฉันอยู่ตรงนี้นะ" ผมวางฮิบาริลงตรงหน้าประตูก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง
      "ไม่ต้องมาสั่งฉัน..." ฮิบาริพูดอะไรก็ไม่รู้เบาเสียจนผมไม่ได้ยิน
      "อ๊ะ แล้วจะรีบกลับมานะ ^^" ผมเหลียวหลังไปพูดทิ้งท้าย
      ฮึบ! โอ๊ยย สายไฟจะเยอะไปไหนเนี่ย อย่างกะรังของแมงมุมเลยแฮะ ผมเดินลัดเลาะหลบสายไฟที่ระโยงระยางเป็นเรือของซินแบด จนกระทั่งเจอคัตเอาท์ที่อยู่ชั้นในสุด
      "ฮ้าา ในที่สุด" ผมสับคัตเอาท์ทันที

      ปิ๊งง!!!

      "เย้!! ไฟมาแล้ว ^O^" ผมเดินออกจากห้องเพื่อจะพาฮิบาริกลับ แต่เขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

      ไม่อยู่แล้ว ไม่อยู่แล้ว ไม่อยู่...

      "อ๊ากกกกก!!! ฮิบาริหายตัวไป OoO"
      "พล่ามอะไรของแกเจ้าสัตว์กินพืช..."
      "อ๊ะ ฮิบาริ นายหายไปไหนมา!!"
      "ฉันมาคิดๆดูแล้ว..." ฮิบาริเสมองไปทางอื่น เขากำลังหลบสายตาผม?
      "คิดเหรอ คิดอะไร?" ผมงง
      "กิงกอร่าน่ะ มันแข็งแกร่งจนน่าขนลุกเลย"
      "หมายความว่าไง" งงx2
      "เมื่อกี้ กิงกอร่าจับตัวฉันไป ฉันก็เลยสู้กับมัน ชนะใสๆ" ฮิบาริพูดพร้อมกับตาลุกวาว
      "ฮ่าๆๆ ฮิบารินี่ตลกจริงๆด้วย กิงกอร่าไม่ม..."
      "มีสิ"
      "เอ๋"
      "ฉันนี่แหละกิงกอร่า ขอละกันนะวิญญาณของนาย"

      "อ๊ากกกกกกกกกก!!!"

      ********************************************************************************************

      อีกด้านหนึ่ง 

      ชายในชุดยูกาตะสีเข้มถือถังกำยานอยู่หน้าห้องควบคุมไฟฟ้า รอคอยจังหวะให้ชายหนุ่มอีกคนเดินออกมาจากห้องแล้วพ่นยากล่อมประสาทที่อยู่ในมือใส่
      "สมน้ำหน้า อยากทิ้งฉันไว้หน้าประตูนัก ต้องเจอแบบนี้ - -+" 


      END


      ps. อย่าด่าไรท์นะจ๊า ><


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×